ดูแลหมอนสกรีนอย่างไร ให้อยู่คู่คุณไปนานๆ: เคล็ดลับซัก-ล้าง-เก็บ
Table of Contents
Toggleเคยไหมที่หมอนสกรีนสวยๆ หรือหมอนไดคัทรูปทรงเก๋ไก๋ที่คุณตั้งใจสั่งมา ตกเป็นเหยื่อของกาลเวลาและคราบสกปรก จนสีสันซีดจาง ลวดลายเลือนลาง ไม่คมชัดเหมือนวันแรกที่ได้มา? คุณอาจกำลังสงสัยว่าหมอนใบโปรดของคุณจะอยู่คู่คุณไปนานๆ ได้อย่างไร โดยที่ยังคงความสวยงามและคมชัดของลายสกรีนไว้ได้อย่างดีที่สุด? ไม่ต้องกังวลไปครับ เพราะวันนี้ ผู้เชี่ยวชาญดิจิทัลสกรีนตัวจริง “Touch” จาก Touch Printing จะมาไขข้อข้องใจ และมอบเคล็ดลับสุดพิเศษในการดูแลรักษาหมอนสกรีนและหมอนไดคัทของคุณให้ยังคงสดใสเหมือนใหม่ พร้อมใช้งานไปอีกนานแสนนาน
หมอนสกรีน ไม่ว่าจะเป็นหมอนอิงตกแต่งบ้าน หมอนหนุนส่วนตัว หรือหมอนไดคัทรูปทรงพิเศษ ต่างก็เป็นมากกว่าแค่สิ่งของ แต่เป็นงานศิลปะชิ้นหนึ่งที่สะท้อนถึงสไตล์ ความชอบ หรือแม้กระทั่งความทรงจำดีๆ ของคุณ การดูแลรักษาที่ถูกวิธีจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อให้งานสกรีนยังคงคุณภาพและสีสันสดใส ไม่ซีดจาง หรือแตกลายงา ซึ่งจะช่วยยืดอายุการใช้งานของหมอนได้อย่างมหาศาล และทำให้หมอนใบโปรดของคุณอยู่คู่กับคุณไปได้อย่างยาวนาน
เข้าใจประเภทของหมอนสกรีนก่อนเริ่มต้นดูแล
ก่อนที่เราจะลงลึกไปถึงวิธีการดูแล เรามาทำความเข้าใจกันก่อนว่าหมอนสกรีนที่คุณมีนั้นเป็นแบบไหน เพราะวัสดุและเทคนิคการสกรีนที่แตกต่างกัน ก็ย่อมมีวิธีการดูแลที่แตกต่างกันไปด้วย โดยหลักๆ แล้ว หมอนสกรีนที่ Touch Printing รับผลิตนั้น (ดูตัวอย่างหมอนสกรีนและผลิตหมอนของเราได้ที่นี่) มักจะแบ่งตามประเภทของเนื้อผ้าและวิธีการสกรีนที่ใช้:
1. หมอนสกรีนด้วยระบบดิจิทัล (Direct to Garment – DTG Printing)
หมอนประเภทนี้ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน ด้วยเทคนิคการพิมพ์ที่ใช้เครื่องพิมพ์พ่นหมึกลงบนเนื้อผ้าโดยตรง ทำให้ได้ภาพที่มีความละเอียดสูง สีสันสดใส คมชัด และสามารถไล่เฉดสีได้อย่างสวยงามเสมือนจริง เหมาะสำหรับลายสกรีนที่มีรายละเอียดเยอะ หรือรูปภาพเหมือนจริง เนื้อผ้าที่นิยมใช้กับงาน DTG มักจะเป็นผ้าคอตตอน หรือผ้าผสมคอตตอนที่มีสัดส่วนคอตตอนสูง
ข้อดี:
- ภาพคมชัด สีสันสดใส ไล่เฉดสีได้ดี
- หมึกซึมเข้าเนื้อผ้า ทำให้สัมผัสเนียนไปกับผ้า
- เหมาะสำหรับลายที่มีรายละเอียดมาก และงานพิมพ์จำนวนไม่มาก
ข้อควรระวัง:
- บางครั้งอาจไม่ทนทานเท่าการสกรีนแบบซิลค์สกรีน หากดูแลไม่ถูกวิธี
- สีอาจซีดจางได้หากตากแดดจัดเป็นเวลานาน
2. หมอนสกรีนด้วยระบบซิลค์สกรีน (Screen Printing)
การสกรีนแบบซิลค์สกรีนเป็นเทคนิคดั้งเดิมที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน เหมาะสำหรับงานพิมพ์ลายที่ไม่ซับซ้อนมากนัก มีจำนวนสีจำกัด แต่ต้องการความทนทานสูง สีสกรีนจะมีความหนาและติดแน่นบนเนื้อผ้าเป็นพิเศษ นิยมใช้กับลายโลโก้ ตัวอักษร หรือลายกราฟิกที่มีสีไม่มาก และต้องการความทนทานเป็นพิเศษ สามารถใช้ได้กับผ้าหลากหลายชนิดข้อดี:
- สีติดทนนาน ทนทานต่อการซักล้าง
- เหมาะสำหรับงานพิมพ์จำนวนมาก เพราะต้นทุนต่อชิ้นลดลงเมื่อพิมพ์จำนวนมาก
- สีสันสดชัด แม้บนผ้าสีเข้ม
ข้อควรระวัง:
- ไม่เหมาะกับลายที่มีรายละเอียดซับซ้อน หรือการไล่เฉดสี
- ฟิล์มสกรีนอาจมีการแตกตัวได้หากถูกเสียดสีหรือซักด้วยวิธีที่รุนแรงเกินไป
3. หมอนสกรีนด้วยระบบ Sublimation (สำหรับผ้าโพลีเอสเตอร์)
เทคนิคนี้เหมาะสำหรับผ้าใยสังเคราะห์ 100% อย่างผ้าโพลีเอสเตอร์เท่านั้น โดยหมึกจะถูกพิมพ์ลงบนกระดาษทรานสเฟอร์ก่อน แล้วใช้ความร้อนและความดันสูงในการถ่ายเทหมึกให้ระเหิดซึมเข้าไปในเส้นใยผ้า ทำให้ลายสกรีนไม่หลุดลอก สีคมชัด สดใส และติดทนนานมากๆ เนื้อสัมผัสของผ้ายังคงเดิม ไม่รู้สึกถึงชั้นของหมึก
ข้อดี:
- สีสันสดใส คมชัด ไม่หลุดลอก ไม่ซีดจางง่าย
- เนื้อผ้าคงสภาพเดิม ไม่แข็งกระด้าง
- ทนทานต่อการซักล้างและการใช้งาน
ข้อควรระวัง:
- ใช้ได้เฉพาะผ้าใยสังเคราะห์ 100% เท่านั้น
- สีอาจจะเพี้ยนจากที่เห็นในหน้าจอได้เล็กน้อย
4. หมอนไดคัท
หมอนไดคัทคือหมอนที่ถูกตัดเย็บให้มีรูปทรงพิเศษตามความต้องการ ไม่ใช่แค่รูปทรงสี่เหลี่ยมหรือวงกลมทั่วไป อาจเป็นรูปการ์ตูน โลโก้ หรือวัตถุต่างๆ การดูแลหมอนไดคัทจะเน้นไปที่การรักษารูปทรงและรอยเย็บเป็นหลัก ควบคู่ไปกับการดูแลลายสกรีน (สนใจสั่งผลิตหมอนไดคัทคุณภาพสูง เชิญปรึกษา Touch Printing ได้เลยครับ)
เมื่อเราทราบแล้วว่าหมอนของคุณเป็นประเภทไหน ก็จะช่วยให้การดูแลรักษามีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นครับ
เคล็ดลับการซักหมอนสกรีน: ซักอย่างไรให้สีไม่ซีด ลายไม่พัง
หัวใจสำคัญของการดูแลหมอนสกรีนให้อยู่กับเราไปนานๆ คือ “การซัก” ที่ถูกวิธี เพราะการซักที่ผิดวิธีเป็นสาเหตุอันดับต้นๆ ที่ทำให้ลายสกรีนเสียหาย สีซีดจาง หรือหลุดลอกไปในที่สุด นี่คือคำแนะนำจาก “Touch” ที่จะช่วยให้คุณซักหมอนสกรีนได้อย่างไร้กังวล:
1. เตรียมความพร้อมก่อนซัก
- ตรวจสอบป้ายกำกับ: อันดับแรกสุด ให้ตรวจสอบป้ายกำกับหรือคำแนะนำการดูแลจากผู้ผลิต (ถ้ามี) ซึ่งมักจะให้ข้อมูลเฉพาะเจาะจงเกี่ยวกับวัสดุและวิธีการซักที่เหมาะสมที่สุด
- แยกซัก: ควรแยกซักหมอนสกรีนออกจากผ้าอื่นๆ โดยเฉพาะผ้าที่มีสีตกง่าย เพื่อป้องกันไม่ให้สีจากผ้าอื่นมาเปื้อนหมอนของคุณ
- กลับด้านหมอน: ก่อนซักทุกครั้ง ให้กลับด้านหมอนเอาลายสกรีนไว้ด้านใน การทำเช่นนี้จะช่วยลดการเสียดสีโดยตรงกับลายสกรีนระหว่างการซัก และช่วยปกป้องลายสกรีนไม่ให้เสียหายจากการขูดขีด
- นำปลอกหมอนออก (ถ้ามี): หากหมอนของคุณมีปลอกหมอนที่ถอดออกได้ ควรนำปลอกหมอนออกเพื่อซักแยกกับไส้หมอน การซักปลอกหมอนจะง่ายกว่าและช่วยรักษาความสะอาดได้ดีกว่าการซักทั้งใบ
2. เลือกวิธีการซักที่เหมาะสม
สำหรับหมอนสกรีน การซักด้วยมือเป็นวิธีที่ดีที่สุด แต่หากต้องการความสะดวก การซักด้วยเครื่องซักผ้าก็สามารถทำได้ โดยมีข้อควรระวังเป็นพิเศษ
การซักด้วยมือ (วิธีที่ดีที่สุด)
การซักด้วยมือเป็นวิธีที่อ่อนโยนที่สุดในการทำความสะอาดหมอนสกรีน ช่วยรักษาสภาพของลายสกรีนได้ดีที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับหมอนสกรีนระบบ DTG ที่อาจมีความละเอียดอ่อนมากกว่า
- เตรียมน้ำอุณหภูมิปกติถึงน้ำเย็น: ใช้น้ำอุณหภูมิห้องหรือน้ำเย็นในการซัก ไม่ควรใช้น้ำร้อนเด็ดขาด เพราะความร้อนอาจทำให้หมึกสกรีนละลายหรือสีซีดจางได้
- ใช้น้ำยาซักผ้าอ่อนโยน: เลือกใช้น้ำยาซักผ้าชนิดอ่อนโยน สูตรสำหรับผ้าสี หรือสำหรับเด็กอ่อน ที่ไม่มีสารฟอกขาวรุนแรงเจือปน เพราะสารฟอกขาวจะทำลายสีสกรีน ทำให้สีซีดจางหรือด่างได้ง่าย
- ผสมน้ำยาซักผ้า: ผสมน้ำยาซักผ้าในน้ำให้เจือจางก่อนนำหมอนลงซัก เพื่อให้น้ำยาซักผ้ากระจายตัวได้ดีและไม่เข้มข้นจนเกินไปในบริเวณใดบริเวณหนึ่ง
- ซักเบาๆ: จุ่มหมอนลงในน้ำยาซักผ้าที่ผสมไว้ ค่อยๆ บีบและขยำเบาๆ บริเวณที่สกปรก หลีกเลี่ยงการขยี้แรงๆ หรือใช้แปรงขัดถูโดยตรงกับลายสกรีน หากมีคราบสกปรกฝังแน่น ให้แช่ทิ้งไว้สักครู่แล้วค่อยๆ ขยำออก
- ล้างออกด้วยน้ำสะอาด: ล้างหมอนด้วยน้ำสะอาดหลายๆ ครั้ง จนกว่าจะแน่ใจว่าไม่มีฟองหรือสารเคมีตกค้างอยู่
- บีบน้ำเบาๆ: บีบน้ำออกจากหมอนอย่างเบามือ หลีกเลี่ยงการบิดหมอนแรงๆ เพราะอาจทำให้หมอนเสียรูปทรง หรือลายสกรีนเสียหายได้
การซักด้วยเครื่องซักผ้า (หากจำเป็น)
หากคุณเลือกซักด้วยเครื่องซักผ้า ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เพื่อลดความเสียหายที่จะเกิดกับลายสกรีน
- ใส่ถุงซักผ้า: ก่อนนำหมอนสกรีนเข้าเครื่องซักผ้า ควรใส่หมอนไว้ในถุงซักผ้าตาข่ายสำหรับถนอมผ้า เพื่อป้องกันการเสียดสีกับผ้าอื่นๆ หรือถังซัก ซึ่งจะช่วยปกป้องลายสกรีนไม่ให้ถูกขูดขีด
- เลือกโหมดซักผ้าที่อ่อนโยนที่สุด: เลือกโหมดซักผ้าแบบ “ผ้าบอบบาง” (Delicate) หรือ “ซักมือ” (Hand Wash) ซึ่งจะใช้รอบปั่นที่ต่ำ และมีการปั่นผ้าที่นุ่มนวลกว่า
- ใช้น้ำเย็น: ตั้งค่าอุณหภูมิน้ำเป็นน้ำเย็นเท่านั้น (Cold Water) เพื่อรักษาสีสันของลายสกรีน
- ใช้น้ำยาซักผ้าอ่อนโยน: ใช้น้ำยาซักผ้าสูตรอ่อนโยน ไม่ใช่ผงซักฟอกที่มีสารฟอกขาว
- ปั่นแห้งด้วยรอบต่ำที่สุด: หากเครื่องซักผ้ามีฟังก์ชันปั่นแห้ง ให้เลือกใช้รอบปั่นที่ต่ำที่สุด หรือหลีกเลี่ยงการปั่นแห้งด้วยเครื่องเลยจะดีที่สุด เพราะการปั่นแห้งด้วยความเร็วสูงอาจทำให้หมอนเสียรูปทรงและลายสกรีนเสียหายได้
3. หลีกเลี่ยงสารเคมีรุนแรง
ไม่ว่าจะซักด้วยมือหรือเครื่องซักผ้า สิ่งที่ต้องจำให้ขึ้นใจคือ ห้ามใช้สารฟอกขาว หรือน้ำยาซักผ้าที่มีส่วนผสมของสารฟอกขาวเด็ดขาด! เพราะสารเหล่านี้จะทำลายเม็ดสีในลายสกรีน ทำให้สีซีดจาง หรืออาจเกิดเป็นรอยด่างที่ไม่พึงปรารถนาได้ รวมถึงน้ำยาปรับผ้านุ่มบางชนิดก็อาจมีผลต่อลายสกรีนเช่นกัน หากไม่แน่ใจ ให้เลือกใช้น้ำยาซักผ้าสำหรับผ้าสีโดยเฉพาะ หรือน้ำยาซักผ้าเด็กอ่อน
เคล็ดลับการทำให้แห้ง: ตากอย่างไรให้หมอนและลายสกรีนอยู่คงทน
1. ตากในที่ร่ม มีลมโกรก
วิธีที่ดีที่สุดคือการตากหมอนสกรีนในที่ร่ม มีลมโกรก เพื่อให้หมอนแห้งสนิทโดยไม่โดนแสงแดดโดยตรง แสงแดดจัดเป็นศัตรูตัวฉกาจของสีสกรีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหมอนสกรีนระบบดิจิทัล (DTG) ที่หมึกอาจไวต่อแสงแดด หากตากแดดจัดเป็นเวลานาน สีจะซีดจางลงเร็วกว่าปกติ
2. กลับด้านตาก
เช่นเดียวกับการซัก ควรกลับด้านหมอนเอาลายสกรีนไว้ด้านในก่อนนำไปตาก เพื่อลดการสัมผัสโดยตรงกับแสงแดด หรือฝุ่นละอองในอากาศ
3. ตากในแนวนอนหรือแขวนด้วยวิธีที่ถูกต้อง
สำหรับหมอนอิงทั่วไป สามารถตากในแนวนอนบนราวตากผ้า หรือบนตาข่ายตากผ้า เพื่อรักษารูปทรงของหมอนและช่วยให้แห้งทั่วถึง หากจำเป็นต้องแขวน ควรใช้ไม้แขวนเสื้อแบบหนาและกว้าง เพื่อประคองรูปทรงของหมอนให้ดีที่สุด หลีกเลี่ยงการใช้ที่หนีบผ้าที่หนีบลงบนลายสกรีนโดยตรง
4. ตรวจสอบให้แน่ใจว่าแห้งสนิท
ก่อนนำหมอนกลับมาใช้งานหรือเก็บเข้าที่ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าหมอนแห้งสนิทจริงๆ หากหมอนยังคงมีความชื้นอยู่ อาจทำให้เกิดเชื้อรา กลิ่นอับ หรือเป็นแหล่งสะสมของแบคทีเรียได้
5. หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องอบผ้า
ไม่ควรนำหมอนสกรีนเข้าเครื่องอบผ้าโดยเด็ดขาด! ความร้อนสูงจากเครื่องอบผ้าสามารถทำให้ลายสกรีนเสียหาย แตกตัว หรือหลุดลอกได้ง่าย รวมถึงอาจทำให้หมอนหดตัว หรือเสียรูปทรงได้อีกด้วย (เราใส่ใจในทุกรายละเอียดการผลิต เพื่อให้คุณได้หมอนคุณภาพดีที่สุด)
เคล็ดลับการรีด (ถ้าจำเป็น)
โดยทั่วไปแล้ว ไม่จำเป็นต้องรีดหมอนสกรีน แต่หากหมอนยับมากและคุณต้องการรีดจริงๆ ควรทำด้วยความระมัดระวังสูงสุด
- กลับด้านหมอน: กลับด้านหมอนเอาลายสกรีนไว้ด้านในก่อนรีดเสมอ
- ใช้ผ้าบางๆ รอง: วางผ้าบางๆ เช่น ผ้าฝ้ายสะอาด หรือผ้าขนหนูบางๆ ทับลงบนลายสกรีน (ในด้านที่กลับออกมา) เพื่อป้องกันความร้อนจากเตารีดสัมผัสกับลายสกรีนโดยตรง
- ใช้ความร้อนต่ำ: ตั้งค่าเตารีดที่อุณหภูมิต่ำที่สุด หรือโหมดสำหรับผ้าใยสังเคราะห์/ผ้าไหม หลีกเลี่ยงการใช้ไอน้ำโดยตรงกับลายสกรีน
- รีดอย่างรวดเร็ว: ค่อยๆ กดเตารีดลงบนผ้าที่รองไว้ และรีดผ่านอย่างรวดเร็ว หลีกเลี่ยงการวางเตารีดทิ้งไว้นานๆ บนจุดใดจุดหนึ่ง
- ห้ามรีดทับลายสกรีนโดยตรง: ย้ำอีกครั้งว่าห้ามรีดทับลายสกรีนโดยตรงเด็ดขาด!
เคล็ดลับการดูแลหมอนไดคัท: รักษารูปทรงให้สวยเป๊ะ
สำหรับหมอนไดคัท การรักษารูปทรงให้คงเดิมคือสิ่งสำคัญ นอกเหนือจากการดูแลลายสกรีนแล้ว คุณควรใส่ใจในสิ่งต่อไปนี้:
- ซักด้วยมืออย่างอ่อนโยน: หากหมอนไดคัทมีขนาดเล็กและไม่หนักมาก ควรซักด้วยมือจะดีที่สุด เพื่อรักษารูปทรงและรอยเย็บต่างๆ ไม่ให้เสียหาย
- ระมัดระวังรอยเย็บ: ในขณะซักและตาก ให้ระมัดระวังบริเวณรอยเย็บต่างๆ ของหมอนไดคัทเป็นพิเศษ เพราะเป็นจุดที่อาจขาดหรือเสียหายได้ง่าย
- ตากในแนวนอน: การตากหมอนไดคัทในแนวนอนจะช่วยรักษารูปทรงไม่ให้ผิดรูปจากการหย่อนคล้อย
- หลีกเลี่ยงการกดทับ: เมื่อไม่ได้ใช้งาน ควรเก็บหมอนไดคัทไว้ในลักษณะที่ไม่ถูกกดทับ หรือบีบอัด เพื่อรักษารูปทรงพิเศษนั้นไว้ (หมอนไดคัทของเราผลิตด้วยความประณีต รับรองคุณภาพ)
เคล็ดลับการเก็บรักษาหมอนอิงและหมอนสกรีน: ป้องกันฝุ่นและกลิ่นอับ
แม้จะซักและทำให้แห้งอย่างดีแล้ว การเก็บรักษาหมอนที่ถูกต้องก็ยังคงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้หมอนของคุณสะอาด ปราศจากฝุ่น และพร้อมใช้งานอยู่เสมอ
1. เก็บในที่แห้งและมีอากาศถ่ายเท
เลือกเก็บหมอนในที่ที่แห้งสนิท ไม่อับชื้น และมีอากาศถ่ายเทได้ดี เพื่อป้องกันการเกิดเชื้อราและกลิ่นอับชื้น
2. ใช้ถุงเก็บหมอนหรือผ้าคลุม
หากคุณไม่ได้ใช้งานหมอนบ่อยๆ หรือต้องการเก็บรักษาเป็นเวลานาน ควรเก็บหมอนไว้ในถุงเก็บหมอนแบบมีซิป หรือคลุมด้วยผ้าสะอาด เพื่อป้องกันฝุ่นละอองและสิ่งสกปรกต่างๆ
3. หลีกเลี่ยงการวางซ้อนกันมากเกินไป
การวางหมอนซ้อนกันมากๆ อาจทำให้หมอนเสียรูปทรง หรือเกิดรอยยับถาวรได้ โดยเฉพาะหมอนที่มีไส้ใยสังเคราะห์ ควรวางซ้อนกันแต่พอประมาณ หรือเก็บในแนวตั้งหากทำได้
4. นำออกผึ่งแดดอ่อนๆ (นานๆ ครั้ง)
นานๆ ครั้ง อาจนำหมอนออกผึ่งแดดอ่อนๆ ในช่วงเช้า หรือช่วงบ่ายแก่ๆ ที่แดดไม่จัดมาก ประมาณ 1-2 ชั่วโมง เพื่อช่วยระบายความชื้น ไล่กลิ่นอับ และฆ่าเชื้อโรคบางชนิด แต่ต้องระวังไม่ให้โดนแดดจัดโดยตรงและเป็นเวลานาน ซึ่งอาจทำให้สีซีดได้ (เราใส่ใจในทุกรายละเอียดการผลิตหมอนของคุณ)
5. ตบหมอนและจัดรูปทรงเป็นประจำ
หมอนอิงหรือหมอนหนุนที่ใช้งานเป็นประจำ ควรมีการตบหมอนและจัดรูปทรงให้กลับมาฟูสวยงามอยู่เสมอ เพื่อรักษาสภาพของไส้หมอนและป้องกันการจับตัวเป็นก้อน
เห็นไหมครับว่าการดูแลหมอนสกรีนและหมอนไดคัทให้อยู่คู่คุณไปนานๆ ไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิด เพียงแค่ใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ตั้งแต่การซัก การตาก ไปจนถึงการจัดเก็บ ด้วยเคล็ดลับจาก ผู้เชี่ยวชาญดิจิทัลสกรีนตัวจริง “Touch” เหล่านี้ หมอนใบโปรดของคุณก็จะยังคงความสวยงาม สดใส และใช้งานได้ยาวนาน เปรียบเสมือนของขวัญชิ้นพิเศษที่มอบความสุขและความสบายให้แก่คุณได้ทุกวัน
หากคุณกำลังมองหาหมอนสกรีนคุณภาพสูง หรือต้องการผลิตหมอนไดคัทตามแบบที่คุณต้องการ ไม่ว่าจะเป็นเพื่อการตกแต่ง ของขวัญ หรือโปรโมทแบรนด์ อย่าลืมนึกถึง Touch Printing เราพร้อมให้บริการและสร้างสรรค์หมอนในฝันของคุณให้เป็นจริง ด้วยคุณภาพการพิมพ์ระดับพรีเมียมและความเชี่ยวชาญที่เราสั่งสมมานาน
สนใจสั่งผลิตหมอนสกรีน หมอนไดคัท คุณภาพสูง?
ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญจาก Touch Printing ได้เลย! เราพร้อมให้คำแนะนำและบริการที่ดีที่สุดสำหรับคุณ
โทร: 062-008-8853
LINE: @touchprinting